เมนู

5. โพชฌาสูตร


[135] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
วิหารเขตวัน อารามของท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนคร
สาวัตถี ครั้งนั้นแล โพชฌาอุบาสิกาเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มี-
พระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนโพชฌา อุโบสถอันประกอบด้วย
องค์ 8 ประการ บุคคลเข้าอยู่แล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก
มีความรุ่งเรืองมาก ความแพร่หลายมาก ดูก่อนโพชฌา ก็อุโบสถ
อันประกอบด้วยองค์ 8 ประการ บุคคลเข้าอยู่แล้วอย่างไร จึงมี
ผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรื่องมาก มีความแพร่หลายมาก
ดูก่อนโพชฌา อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมตระหนักชัดดังนี้ว่า
พระอรหันต์ทั้งหลาย และปาณาติบาต งดเว้นจากปาณาติบาต
วางท่อนไม้ วางศาตรา มีความละอาย เอื้อเอ็นดู อนุเคราะห์
เกื้อกูล ต่อสรรพสัตว์อยู่ตลอดชีวิตในวันนี้ แม้เราก็ละปาณาติบาต
งดเว้นจากปาณาติบาต วางท่อนไม้ วางศาตรามีความละอาย
เอื้อเอ็นดู อนุเคราะห์เกื้อกูล ต่อสรรพสัตว์อยู่ตลอดคืน และวันนี้
เราชื่อว่ากระทำตามพระอรหันต์ทั้งหลายแม้ด้วยองค์นี้ และอุโบสถ
จักเป็นอันชื่อว่าเราเข้าอยู่แล้ว อุโบสถประกอบด้วยองค์ที่ 1 นี้ ฯลฯ
อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมตระหนักชัดดังนี้ว่า พระอรหันต์
ทั้งหลายละการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนสูงใหญ่ งดเว้นจากการนั่ง
การนอนบนที่นั่งที่นอนสูงใหญ่ สำเร็จการนอนบนที่นั่งที่นอนต่ำ

คือ นอนบนเตียงหรือเครื่องลาดด้วยหญ้าอยู่ตลอดชีวิต ในวันนี้
แม้เราก็ละการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนสูงใหญ่ เว้นจากการนั่ง
การนอนบนที่นั่งที่นอนสูงใหญ่ สำเร็จการนั่งการนอนบนที่นั่ง
ที่นอนต่ำ คือ บนเตียงหรือเครื่องลาดด้วยหญ้าตลอดคืนและวันนี้
เราคือว่ากระทำตามพระอรหันต์ทั้งหลายด้วยองค์ และอุโบสถ
จักเป็นอันชื่อว่าเราเข้าอยู่แล้ว อุโบสถประกอบด้วยองค์ที่ 8 นี้
ดูก่อนโพชฌา อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ 8 ประการ บุคคล
เข้าอยู่แล้วอย่างนี้แล จึงมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรื่อง
มาก มีความแพร่หลายมาก.
อุโบสถประกอบด้วยองค์ 8 ประการ บุคคลเข้าอยู่แล้ว มี
ผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรื่องมาก มีความแพร่หลายมาก
เพียงไร ดูก่อนโพชฌา เปรียบเหมือนพระราชาที่เสวยราชย์ดำรง
อิสรภาพและอธิปไตยในชนบทใหญ่ 16 รัฐ มีรัตนะ 7 ประการ
มากมายเหล่านี้ คือ อังคะ มคธะ กาสี โกศล วัชชี มัลละ เจดีย์
วังสะ กุรุ ปัญจาละ มัจฉะ สุระเสนะ อัสสกะ อวันตี คันธาระ
กัมโพชะ การเสวยราชย์ดำรงอิสรภาพและอธิปไตยของ พระราชา
นั้น ไม่ถึงเสี้ยวที่ 16 และอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ 8 ประการ
ข้อนั้นเพราะเหตุไร ดูก่อนโพชฌา เพราะราชสมบัติมนุษย์ เป็น
เหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์ ดูก่อนโพชฌา
50 ปีมนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นจาตุมมหาราช 30
ราตรี โดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง 12 เดือนโดยเดือนนั้น เป็น
ปีหนึ่ง 500 ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุของเทวดาชั้น

จาตุมมหาราช ดูก่อนโพชฌา ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็น
หญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบ ด้วยองค์ 8 ประการ
แล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงด้วยความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นจาตุมมหาราช
นี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูก่อนโพชฌา เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า
ราชสมบัติ มนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอัน
เป็นทิพย์.
ดูก่อนโพชฌา 100 ปีมนุษย์ ฯลฯ
ดูก่อนโพชฌา 200 ปีมนุษย์ ฯลฯ
ดูก่อนโพชฌา 400 ปีมนุษย์ ฯลฯ
ดูก่อนโพชฌา 800 ปีมนุษย์ ฯลฯ
ดูก่อนโพชฌา 1,600 ปีมนุษย์ เป็นคืนวันหนึ่งของเทวดา
ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี 30 ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง 12
เดือนโดยเดือนนั้นเป็นหนึ่ง 16,000 ทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณ
อายุของเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ดูก่อนโพชฌา ข้อที่บุคคล
บางคนในโลกนี้ จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอัน
ประกอบด้วยองค์ 8 ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความ
เป็นสหาย แห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี นี้เป็นฐานะที่จะมีได้
ดูก่อนโพชฌา เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็น.
เหมือน ของตนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์.
บุคคลไม่พึงฆ่าสัตว์ ไม่พึงถือเอาสิ่งของ
ที่เจ้าของไม่ให้ พึงเว้นจากเมถุนธรรม อันมิใช่
ความประพฤติของพรหม ไม่พึงพูดเท็จ ไม่พึง

ดื่มน้ำเมา ไม่พึงบริโภคอาหารในเวลาวิกาล
ในราตรี ไม่พึงทัดทรงดอกไม้และของหอม พึง
นอนบนเตียงบนแผ่นดิน หรือบนเครื่องลาดด้วย
หญ้า บัณฑิตทั้งหลายกล่าวอุโบสถ 8 ประการนี้
แลที่พระพุทธเจ้าผู้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ทรงประกาศ
แล้ว พระจันทร์และพระอาทิตย์ทั้งสองส่องแสง
สว่างไสว ย่อมโคจรไปตามวิถีเพียงไร ลอยอยู่
บนอากาศ ส่องแสงสว่างทั่วทุกทิศในท้องฟ้า
ทรัพย์ใดอันมีอยู่ในระหว่างนี้ คือ แก้วมุกดา
แก้วมณี แก้วไพฑูรย์ อย่างดี หรือทองมีสีสุกใส
ที่เรียกกันว่า หตถะ พระจันทร์พระอาทิตย์และ
ทรัพย์นั้น ๆ ก็ยังไม่ถึงแม้เสี้ยวที่ 16 แห่ง
อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ 8 ประการ เปรียบ
เหมือนรัศมีพระจันทร์ข่มหมู่ดวงดาวทั้งหมด
ฉะนั้น เพราะฉะนั้นแหละ หญิงหรือชายผู้มีศีล
เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ 8 ประการ
แล้ว กระทำบุญมีสุขเป็นกำไร ไม่มีใครติเตียน
ย่อมเข้าถึงสวรรค์.

จบ โพชฌาสูตรที่ 5

6. อนุรุทธสูตร


[136] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ โฆสิ-
ตารามใกล้พระนครโกสัมพี ก็สมัยนั้นแล ท่านพระอนุรุทธะไปยัง
วิหารที่พักกลางวัน หลีกเร้นอยู่ ลำดับนั้น มีเทวดาเหล่ามนาปกายิกา
มากมายพากันเข้าไปหาท่านพระอนุรุทธะถึงที่อยู่ ภิวาทแล้วยืนอยู่
ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กล่าวดังนี้ว่า ข้าแต่ท่านพระ-
อนุรุทธะผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นเทวดาชื่อมนาปกายิกา มี
อิสระและอำนาจในฐานะ 3 ประการ คือ ข้าพเจ้าทั้งหลายหวัง
วรรณะเช่นใด ก็ได้ความสุขเช่นนั้นโดยพลัน 1 ข้าแต่พระอนุรุทธะ
ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นเทวดาชื่อว่านาปกานิกา มีอิสระและ
อำนาจใน 3 ประการนี้.
ลำดับนั้น ท่านพระอนุรุทธะดำริว่า โอหนอ ขอให้เทวดา
ทั้งปวงนี้ พึงมีร่างเขียว นุ่งผ้าเขียว มีผิวพรรณเขียว มีเครื่อง
ประดับเขียว.
ท่านพระอนุรุทธะจึงดำริต่อไปว่า โอหนอ ขอให้เทวดาทั้งปวง
นี้ มีร่างเหลือง ฯลฯ มีร่างแดง ฯลฯ มีร่างขาว มีผิวพรรณขาว
นุ่งผ้าขาว มีเครื่องประดับขาว.
เทวดาเหล่านั้นทราบความดำริของท่านพระอนุรุทธะแล้ว
ล้วนมีร่างขาว มีผิวพรรณขาว นุ่งผ้าขาว มีเครื่องประดับขาว
เทวดาเหล่านั้น ตนหนึ่งขับร้อง ตนหนึ่งฟ้อนรำ ตนหนึ่งปรบมือ
เปรียบเหมือนดนตรีมีองค์ 5 ที่เขาปรับดีแล้ว ตีดังไพเราะ ทั้ง